ปัญหาของเสียงรบกวน สามารถเกิดขึ้นได้หลายกรณี ทั้งจากการติดตั้งที่อยู่ในระบบ และนอกระบบ ดังนั้นเสียงรบกวนจึงเป็นเสียงที่ไม่มีใครต้องการจะให้เกิดขึ้น เพราะทำให้ความชัดเจนของคุณภาพเสียงลดลง และสร้างความรำคาญในการฟังเพลงโปรดของคุณ นอกจากนี้เสียงรบกวนสามารถเกิดได้จากเครื่องเสียงแยกชิ้นที่ติดตั้งร่วมกันอยู่ในระบบเสียงติดรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น วิทยุ พรีแอมพ์ ครอสส์โอเวอร์ เพาเวอร์แอมพ์ ที่ออกแบบไม่ดี และไม่ได้มาตรฐาน หรือสามารถเกิดขึ้นได้จากส่วนประกอบภายในวงจรอีเลคทรอนิคที่ไม่มีคุณภาพ และรวมไปถึงการติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐานอีกด้วย
ในครั้งนี้จะนำท่านไปรู้จักกับเสียงรบกวนกัน สำหรับเสียงรบกวนที่พบเห็นกันโดยทั่วไปมีอยู่ไม่กี่ประเภท ได้แก่
– เสียงรบกวนที่เกิดขึ้นภายในวงจร มักจะเกิดจากการเชื่อมต่อระหว่างชุดเครื่องเสียงแยกชิ้นที่มีอยู่ในระบบเสียง สามารถเกิดขึ้นได้ระหว่างแหล่งสัญญาณกับอุปกรณ์ต่อพ่วง เช่นวิทยุกับพรีแอมพ์ หรือครอสส์โอเวอร์กับเพาเวอร์แอมพ์ ที่มีคุณภาพแตกต่างกัน และเมื่อนำมาจัดชุดร่วมกันก็อาจจะทำให้เกิดเสียงรบกวนขึ้นได้ เช่น เสียงซ่าที่เหมือนกับเปิดวิทยุแล้วไม่มีคลื่นวิธีแก้ไข คือ เลือกสินค้าที่นำมาเข้าชุดให้ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพไม่แตกต่างกัน
– เสียงรบกวนจากการเหนี่ยวนำ (ALTERNATOR WHINE) ที่เกิดจาก ALTERNATOR หรือเรียกอีกชื่อว่า ไดชาร์จ เป็นเสียงรบกวนในย่านความถี่สูงที่เกิดจากตัว ALTERNATOR ได้ขยายผ่านเข้าทางเพาเวอร์แอมพ์ติดรถยนต์ และไปออกที่ลำโพงให้ได้ยิน เช่น เสียงหวีด,หอน ถ้าเสียงหวีด, หอน มีความดังที่สม่ำเสมอ และความดังเปลี่ยนแปลงได้ตามความเร็วของเครื่องยนต์ให้สันนิษฐานว่า เกิดจากวงจร RECTIFIER ชำรุดหรือเสีย ซึ่งวงจร RECTIFIER จะทำหน้าที่แปลงกระแสไฟสลับจาก ALTERNATOR ให้เป็นกระแสไฟตรงที่ราบเรียบ โดยส่งให้กับชุด REGULATOR เพื่อจ่ายไฟไปบรรจุที่แบทเตอรี สำหรับวิธีตรวจสอบ คือ ใช้โวลท์มิเตอร์ตั้งย่านการวัดที่ 50 โวลท์ DC และเร่งรอบเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าวัดแล้วได้แรงดันสูงกว่า 14.8 โวลท์ DC แสดงว่าวงจร RECTIFIER ชำรุดหรือเสีย
นอกจากนี้เสียงรบกวนจากการเหนี่ยวนำ สามารถเข้ามาตามสายสัญญาณโดยผ่านเข้ามาตามอุปกรณ์ปรับแต่งเสียง เช่น พรีแอมพ์หรือเพาเวอร์แอมพ์ และขยายออกที่ลำโพงตามลำดับ และในกรณีที่ต้องเดินสายสัญญาณเป็นระยะทางยาว เช่น จากด้านหน้ารถ (จากวิทยุหรือพรีแอมพ์) ไปที่ท้ายรถ โดยเฉพาะติดตั้งเพาเวอร์แอมพ์ไว้ท้ายรถ สามารถหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนดังกล่าวได้ โดยใช้สายสัญญาณที่มีคุณภาพสูงที่มีชีลด์ห่อหุ้ม (SHIELD) สำหรับป้องกันเสียงรบกวนจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้า โดยเดินสายสัญญาณไปตามด้านข้างของตัวรถ หรือเดินสายสัญญาณให้ห่างจากสายไฟรถยนต์ หรือสายไฟแบทเตอรีที่ต่อกับเพาเวอร์แอมพ์ หรือเดินสายสัญญาณให้สั้นที่สุด ด้วยการติดตั้งเพาเวอร์แอมพ์ไว้ใต้เบาะรถ
– เสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ หรือ ENGINE NOISE เสียงรบกวนประเภทนี้มีลักษณะดังคล้ายเสียงป๊อกแป๊ก สามารถเกิดได้จากระบบจุดระเบิด หรือจากสายหัวเทียน โดยเหนี่ยวนำเข้าสายไฟของระบบเสียง หรือจุดกราวน์ดที่ไม่สมบูรณ์ วิธีแก้ไขให้เดินสายไฟระบบเสียงรถยนต์ห่างจากระบบจุดระเบิด หรือห่างจากสายหัวเทียน และตรวจเชคสายกราวน์ดที่แบทเตอรีให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ หรือเปลี่ยนสายกราวน์ดที่มีขนาดใหญ่กว่าแทนสายเดิม
– เสียงรบกวนที่เกิดจากกระแสไหลวนในสายดิน หรือ GROUND LOOP สามารถเกิดขึ้นจากการลงสายกราวน์ดที่ตัวถังรถยนต์ไม่แน่นหนา หรือจุดกราวน์ดเสื่อมสภาพและเกิดจากการลงสายกราวน์ดหลายเส้น วิธีแก้ไข คือ เดินสายกราวน์ดให้สั้นที่สุดลงตัวถังรถยนต์ เช่น พรีแอมพ์หรือครอสส์โอเวอร์ให้ใช้สายกราวน์ดที่มีขนาดเท่ากันลงตัวถังรถยนต์ที่ตำแหน่งเดียวกัน และถ้ามีเพาเวอร์แอมพ์ด้วยให้เดินสายกราวน์ดของเพาเวอร์แอมพ์ให้สั้นที่สุด
– เสียงรบกวนจากแตร สามารถเกิดขึ้นได้จากการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่เข้ามาตามสายไฟ หรือเข้าไปยังภาคขยายของเพาเวอร์แอมพ์ ในขณะกดแตรจะมีเสียงรบกวนดังกล่าว และในกรณีที่เกิดจากตัวแตร หรือเกิดจากรีเลย์ มีวิธีแก้ไข คือใส่คาพาซิเตอร์ชนิดไมลาร์ (MYLAR) ขนาด 0.1 ไมโครฟารัด/630 โวลท์ โดยต่อคร่อมที่สวิทช์หน้าสัมผัสแตร หรือต่อคร่อมที่ตัวรีเลย์ นอกจากนี้การเลือกใช้ตัวคาพาซิเตอร์สำหรับกรองเสียงรบกวน (FILTER) ยังต้องคำนึงถึงชนิดในการใช้งานอีกด้วย อาทิเช่น ในกรณีที่ใช้ชนิดของคาพาซิเตอร์ผิดประเภท สามารถทำให้เกิดเสียงรบกวนต่างๆ ตามมา ยกตัวอย่าง คาพาซิเตอร์ชนิดอีเลคทรอไลทิค (ELECTROLYTIC) จะมีค่ากระแสรั่วไหลมาก ทำให้เกิดเสียงรบกวนขึ้นได้เช่นกัน
นอกจากนี้ก็ยังมีเสียงรบกวนอื่นๆ ที่เกิดจาก สวิทช์ไฟเบรค สวิทช์ไฟเลี้ยว ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากการเหนี่ยวนำเข้าไปตามสายไฟ หรือเกิดจากการติดตั้งชุดเครื่องเสียงแยกชิ้นที่มีอยู่ในระบบไม่ถูกต้อง เช่น ต่อสายไฟวิทยุ หรือพรีแอมพ์พ่วงเข้ากับสายไฟในรถ วิธีแก้ไข และหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนดังกล่าว คือ เดินสายไฟเส้นใหม่จากแบทเตอรีให้กับชุดเครื่องเสียงติดรถยนต์แยกกันต่างหาก เพื่อไม่ให้เกี่ยวข้องกับระบบไฟในรถ และคำนวณขนาดของสายไฟ หรือสายกราวน์ดที่เหมาะกับงานชุดเครื่องเสียง…เพียงเท่านี้ ท่านก็สามารถแก้ไข และปราบเสียงรบกวนได้อย่างอยู่หมัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น